external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

เตรียมพร้อมช้อปลดหย่อนภาษีกับโครงการ Easy e-Receipt 2.0

#ttb #fintips #บัตรเครดิต #บัตรเครดิตttb #บัตรเครดิตแคชแบ็ก #ใช้บัตรเครดิต #ช้อปลดหย่อนภาษี #EasyEReceipt2568
24 ม.ค. 2568

  • โครงการ Easy E-Receipt 2.0 คืออะไร? ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
  • สินค้าและบริการที่เข้าร่วมและไม่เข้าร่วม Easy E-Receipt 2.0
  • โครงการ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีได้จริงเท่าไหร่ และประหยัดภาษีไปเท่าไหร่
  • วางแผนการช้อปไม่ก่อหนี้เพิ่ม และได้ลดหย่อนกับบัตรเครดิต ttb

โครงการช้อปลดหย่อนภาษีรับต้นปีได้กลับมาอีกครั้ง จากที่รัฐบาลได้มีโครงการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ถูกใจสายช้อปปิ้งอย่างเรา กับโครงการ “Easy e-Receipt 2.0” ซึ่งโครงการของปีนี้จะแตกต่างจากโครงการ Easy e-Receipt ของปี 2567 โดยปีที่แล้ว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สามารถจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการตามเงื่อนไขที่ได้จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท (สินค้าและบริการอื่นๆในรูปแบบใดก็ได้ที่เข้าเงื่อนไขกับมาตรการที่กำหนดไว้) แต่ในปี 2568 นี้ จะมาในรูปแบบของการซื้อสินค้าที่ได้จ่ายจริงสูงสุด 50,000 บาท โดยมีเงื่อนไขคือ ต้องใช้จ่ายกับร้านค้าทั่วไป และซื้อสินค้าในวิสาหกิจชุมชน หรือ OTOP ด้วย


โครงการ Easy e-Receipt 2.0 ของปี 2568 คืออะไร

คือโครงการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งเป็นมาตรการขยายผลจากมาตรการเดิม "Easy e-Receipt" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในประเทศในปี 2568 โดยให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการตามเงื่อนไขที่ได้จ่ายจริงสูงสุด 50,000 บาท สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ โดยใช้หลักฐานเป็นใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ คือ e-Tax Invoice และ e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยโครงการ Easy e-Receipt 2.0 จะเริ่มวันที่ 16 มกราคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 เท่านั้น

e-Tax Invoice & e-Receipt คืออะไร และแตกต่างจากใบกำกับภาษีและใบรับในรูปแบบกระดาษ อย่างไร

e-Tax Invoice และ e-Receipt คือ ใบกำกับภาษี (e-Tax Invoice) และใบรับ (e-Receipt) ที่ได้มี การจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และได้ลงลายมือชื่อโดยใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate) ทั้งนี้ ผู้ออก e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ต้องได้รับอนุมัติจากกรมสรรพากร ให้ออกได้

ใครที่สามารถเข้าร่วมโครงการ โครงการ Easy e-Receipt 2.0 ปี 2568

สำหรับโครงการ Easy e-Receipt 2.0 ผู้ที่สามารถร่วมโครงการนี้ได้จะต้องเป็น บุคคลธรรมดาที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่านั้น แต่ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล โดยต้องนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากการซื่อสินค้าหรือบริการที่ได้จากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยต้องใช้จ่ายตามเงื่อนไขกับร้านค้าหรือบริการที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น

เช็กเงื่อนไขให้ชัวร์ก่อนช้อปของโครงการ Easy e-Receipt 2.0 มีอะไรบ้าง?

เงื่อนไขการใช้จ่ายจะไม่เหมือนกับปีที่แล้ว โดยในปีนี้ จะมีเงื่อนไขการช้อปลดหย่อนภาษี ดังต่อไปนี้

  1. ค่าใช้จ่ายในร้านค้าทั่วไป
    ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือจากผู้มิได้เป็นผู้ประกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท
  2. ค่าใช้จ่ายในวิสาหกิจชุมชนหรือร้านค้า OTOP
    สามาถซื้อสินค้าหรือบริการที่หักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท ในกรณีที่ใช้จ่ายตามเงื่อนไข ดังนี้
    • ซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์(OTOP) ซึ่งลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
    • ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร
    • ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากวิสาหกิจเพื่อสังคมที่จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ เพื่อสังคม

ทั้งนี้ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามข้อ (1) รวมถึงค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามข้อ (2) ด้วย เช่น ซื้อสินค้า OTOP 50,000 บาท สามารถหักลดหย่อนได้ 50,000 บาท

และหากร้านค้าใดไม่ได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถซื้อสินค้าหรือบริการได้เพียง หนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร (รวมถึงในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์/E- book) สินค้า OTOP ที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน และสินค้าหรือบริการของวิสาหกิจชุมชน ที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนต่อกรมส่งเสริมการเกษตรหรือส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมต่อ สวส.

สินค้าและบริการที่เข้าร่วมกับโครงการ Easy e-Receipt 2.0

สินค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการ Easy e-Receipt 2.0 มีอะไรบ้าง อะไรใช้ลดหย่อนได้?

สินค้าและบริการที่เข้าร่วม

สินค้าและบริการทั่วไป เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือของใช้อื่นๆในชีวิตประจำวันที่ได้ซื้อจากร้านค้า, ห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่ออกใบกำกับภาษีเต็มรูป ในรูปแบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าที่มีสาขาทั่วไป หากเป็นร้าน้าอื่นๆ ให้มองหาสัญลักษณ์ Easy e-Receipt ที่หน้าร้านค้า และสามารถตรวจสอบร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพกร https://etax.rd.go.th/ETAXSEARCH/normal_person.html ได้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568

โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์ IT

ค่าหนังสือ, หนังสือพิมพ์, นิตยสาร, E-Book และสินค้า OTOP

ทองคำรูปพรรณ นำมาหักลดหย่อนได้เฉพาะค่ากำเหน็จเท่านั้น เพราะทองคำไม่ต้องเสียภาษี

ค่าซ่อมรถ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เข้าศูนย์ เปลี่ยนยางรถยนต์ หรืออุปกรณ์แต่งรถ นำมาหักลดหย่อนได้


สินค้าและบริการที่ไม่เข้าร่วม

เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เบียร์ ไวน์ ยาสูบ

รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ

ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซเติมพาหานะ และค่าบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับเติมยานพาหนะ

ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า

ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต

ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลา ระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2568ถึงวันที่ 28กุมภาพันธ์ 2568 เช่น ค่าสมาชิกต่าง ๆ

ทองคำแท่ง

ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว

ค่าที่พักในโรงแรม

ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย

ค่าที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม

Gift Voucher, ค่าบัตรเติมเงิน (ในกรณีที่ได้บัตรของขวัญหรือบัตรเติมเงิน เช่น Gift Voucher จากห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ไปซื้อสินค้าหรือบริการระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์2568 ซึ่งสามารถคำนวณมูลค่าและออก e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ได้สามารถ หักลดหย่อนตามมูลค่าดังกล่าวได้)

อาหารสุนัข อาหารแมว และอาหารสัตว์ทุกประเภท (เป็นสินค้าและบริการที่ไม่อยู่ในกลุ่มที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ผักผลไม้สด เนื้อสัตว์สด (เป็นสินค้าและบริการที่ไม่อยู่ในกลุ่มที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม)

หน้ากากอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ (เป็นสินค้าและบริการที่ไม่อยู่ในกลุ่มที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ตัวอย่างการซื้อสินค้าและบริการสำหรับลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy e-Receipt 2.0

สมมติว่าเรากำลังวางแผนลดหย่อนภาษี โดยต้องการใช้จ่ายเต็มวงเงินของเงื่อนไขของโครงการที่ 50,000 บาท โดยต้องใช้จ่ายตามเงื่อนไขคือ ซื้อสินค้าร้านทั่วไป 30,000 บาท กับร้านค้า OTOP 20,000 บาท โดยจะต้องวางแผนใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 ดังต่อไปนี้

  1. ตัวอย่าง ซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าทั่วไป ที่สามารถลดหย่อนได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท
    • ซื้อเครื่องปรับอากาศจาก Global House ในราคา 15,000 บาท โดยทำการเลือกผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือน ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2568
    • ซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใช้ในชีวิตประจำวัน 2,000 บาท
    • เปลี่ยนยางรถยนต์ที่ศูนย์บริการที่ร่วมโครงการ 13,000 บาท
    รวมค่าใช้จ่ายในกลุ่มร้านค้าทั่วไปทั้งสิ้น 30,000 บาท
  2. ตัวอย่าง ซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าชุมชนวิสาหกิจหรือ OTOP ที่สามารถลดหย่อนได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท
    • ซื้อเครื่องครัวไม้ ตะหลิวไม้ จากร้านขายงานหัตถกรรมและสินค้า OTOP 15,000 บาท
    • ซื้อมะขามหวานเพชรบูรณ์จากร้าน Kingmarind 5,000 บาท
    • รวมค่าใช้จ่ายในกลุ่มร้านค้าวิสาหกิจหรือ OTOP ทั้งสิ้น 20,000 บาท

โครงการ Easy e-Receipt 2.0 ลดหย่อนภาษีได้จริงเท่าไหร่ และประหยัดภาษีไปเท่าไหร่

หลายคนก็จะมีคำถามว่า หากได้ใช้จ่ายตามสิทธิครบ 50,000 บาท แล้ว ตนเองจะได้รับเงินคืนเท่าไหร่ จากการเข้าร่วมโครงการนี้ บอกก่อนว่า เนื่องจากการคำนวณภาษีลดหย่อนนั้น ขึ้นอยู่กับฐานการเสียภาษีและรายได้ของแต่ละบุคคล หากผู้เสียภาษี มีการเสียภาษีต่อปีที่ 35% ก็จะได้รับเงินคืนภาษีที่ 17,500 บาท แต่ถ้าหากซื้อของเกิน 50,000 บาทเราจะลดหย่อนได้สูงสุดแค่เพียง 50,000 บาทเท่านั้น ซึ่งฐานการเสียภาษีของแต่ละรายได้อื่นๆตามที่กฎหมายของกรมสรรพากรกำหนด จะเป็นไปตามข้อมูลด้านล่าง ดังนี้

  • อัตราการเสียภาษี 35% เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 50,000 บาท จะได้เงินคืนภาษี (50,000 x 35%) = 17,500 บาท
  • อัตราการเสียภาษี 20% เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 50,000 บาท จะได้เงินคืนภาษี (50,000 x 20%) = 10,000 บาท
  • อัตราการเสียภาษี 5% เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 50,000 บาท จะได้เงินคืนภาษี (50,000 x 5%) = 2,500 บาท

กรณีซื้อสินค้าและบริการ ไม่ถึง 50,000 บาท เราสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุดตามยอดที่ได้ใช้จ่ายจริงเท่านั้น ตามตัวอย่างข้อมูลด้านล่าง

  • อัตราการเสียภาษี 35% เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 30,000 บาท จะได้เงินคืนภาษี (30,000 x 35%) = 10,500 บาท
  • อัตราการเสียภาษี 20% เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 30,000 บาท จะได้เงินคืนภาษี (30,000 x 20%) = 6,000 บาท
  • อัตราการเสียภาษี 5% เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 30,000 บาท จะได้เงินคืนภาษี (30,000 x 5%) = 1,500 บาท

รู้จักวางแผนการใช้จ่ายให้ดี ให้คุ้มค่า ไม่ก่อหนี้เพิ่ม

โครงการ Easy e-Receipt 2.0 ปี 2568 สามารถใช้ตัวช่วยอย่าง บัตรเครดิต ให้การชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรเครดิตหรือผ่อนชำระเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น ซึ่งอาจกระตุ้นให้หลายคนใช้จ่ายมากขึ้น แต่หากไม่ต้องการสร้างหนี้เพิ่ม ควรวางแผนก่อนตัดสินใจซื้อ เลือกเฉพาะสินค้าที่จำเป็นหรือใช้งานได้คุ้มค่าในระยะยาว และพิจารณาความสามารถในการชำระคืนของตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้การใช้จ่ายเป็นประโยชน์จริงและไม่ก่อให้เกิดภาระทางการเงินในอนาคต

หากอยากใช้จ่ายให้คุ้มค่ามากขึ้นและได้เงินคืนเข้าบัญชีด้วย บัตรเครดิต ttb เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์การใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่ากับบัตรเครดิตที่ได้เงินคืน กับบัตรเครดิต ttb so smart เมื่อใช้จ่ายสินค้าหรือบริการทุกร้านค้าจะได้เงินคืน 1% เข้าบัญชี ttb no fixed สูงสุด 2,000 บาท/บัญชีบัตร/รอบบัญชี อีกทั้งยังเป็นบัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียมรายปีและแรกเข้าอีกด้วย หากใครสนใจสมัครบัตรเครดิต ttb so smart สามารถสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ได้ เพียงลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย ที่นี่ https://www.ttbbank.com/th/personal/credit-cards/card-type/ttb-so-smart

ตัวอย่างรถยนต์ที่เหมาะสมกับรายได้

ที่สำคัญ เราควรใช้จ่ายบัตรเครดิตโดยใช้ให้เป็น รู้จักใช้ ไม่ให้เป็นหนี้เพิ่ม
“ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16%”

ทั้งนี้เงื่อนไขสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และเกณฑ์การพิจารณาบัตรเครดิตเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิต ttb สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ttb contact center 1428 หรือที่สาขา ทีทีบี หรือ ผ่านแอป ttb touch

สำหรับทุกประเภทบัตร รวมถึงกรณีมีข้อร้องเรียนใด ๆ สามารถแจ้งข้อร้องเรียนได้ที่ ttb contact center 1428 หรือที่ทุกสาขาของ ทีทีบี

ข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม
https://www.thaigov.go.th/
https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/lorkhor/newsbanner/2024/12/Q_A_Easy_E-Receipt_2.0_25122567.pdf