ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศ มาตรการ LTV ล่าสุดเพื่อควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้มีความเหมาะสมและรัดกุมมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงในระบบการเงินและอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ โดย มาตรการ LTV ล่าสุด นี้จะส่งผลต่อการพิจารณาสินเชื่อบ้านของธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า มาตรการ LTV ที่ว่านี้คืออะไร และคนที่อยากมีบ้านอย่างเรา ๆ ต้องทำอย่างไรกับมาตรการนี้ วันนี้ ทีทีบี จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจตั้งแต่ความหมายและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ควรรู้ในบทความนี้
มาตรการ LTV คืออะไร
มาตรการ LTV (Loan to Value) คือ อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดขึ้นเพื่อควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน โดยจะพิจารณาจากความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของผู้กู้ และจำนวนที่อยู่อาศัยที่ผู้กู้ถือครองอยู่ เพื่อป้องกันการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์และลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้เสียที่มาเกินความจำเป็น
มาตราการ LTV คำนวณยังไง
มาตรการ LTV กำหนดวงเงินของสินเชื่อในอัตราร้อยละ 80 จากวงเงินยื่นกู้ทั้งหมด หมายความว่าเมื่อเรายื่นกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร มีโอกาสสูงที่เราจะได้วงเงินประมาณ 80% ของราคาบ้านที่เรายื่น โดยมีวิธีคำนวณวงเงินดังนี้
(จำนวนเงินกู้ / มูลค่าบ้าน) x 100 = 80 ตามอัตราของ LTV
ตัวอย่างเช่น นาย A ต้องการกู้เงินซื้อบ้านราคา 3,000,000 บาท
- มูลค่าบ้าน = 3,000,000 บาท
- อัตรา LTV = 80%
- จำนวนเงินกู้สูงสุดที่เป็นไปได้ = 3,000,000 x 80% = 2,400,000 บาท
หากกู้ร่วมมาตรการ LTV มีเงื่อนไขอย่างไร
สำหรับการกู้ร่วม มาตรการ LTV ล่าสุด มีการผ่อนปรนพิเศษ โดยจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ร่วมทุกคน ซึ่งจะช่วยเพิ่มวงเงินกู้ได้มากขึ้น แต่ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้กู้หลัก เช่น คู่สมรส บิดามารดา หรือบุตร และต้องมีรายได้ประจำที่สามารถพิสูจน์ได้ ทั้งนี้ ธนาคารจะพิจารณาภาระหนี้รวมของผู้กู้ทุกคนต้องไม่เกินเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด
มาตราการ LTV กระทบใครบ้าง
กลุ่มคนที่ซื้อบ้านหลังแรก
สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก มาตรการ LTV เอื้อประโยชน์มากที่สุด โดยสามารถกู้ได้สูงสุดถึง 100% ของราคาบ้าน หากราคาบ้านไม่เกิน 10 ล้านบาท และมีการผ่อนดาวน์มาแล้วไม่น้อยกว่า 24 งวด ทำให้ผู้ซื้อบ้านหลังแรกสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น
กลุ่มคนที่ซื้อบ้านหลังที่ 2
ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 มาตรการ LTV จะกระทบต่อผู้ยื่นกู้บ้านกลุ่มนี้โดยตรง จำกัดให้ยื่นกู้ได้ไม่เกิน 80-90% ของราคาบ้าน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผ่อนชำระบ้านหลังแรกมาแล้วกี่ปี และมีประวัติการผ่อนชำระที่ดีหรือไม่
กลุ่มคนที่ซื้อบ้านหลังที่ 3 ขึ้นไป
มาตรการ LTV มีผลกระทบมากที่สุดต่อผู้ซื้อบ้านหลังที่ 3 ขึ้นไป โดยจะสามารถกู้ได้ไม่เกิน 70% ของราคาบ้าน ซึ่งเป็นการควบคุมการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์และส่งเสริมให้เกิดการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมากกว่า
ประโยชน์ของมาตรการ LTV ที่หลายคนนึกไม่ถึง
แม้ว่ามาตรการ LTV จะดูเข้มงวดสำหรับผู้ซื้อบ้านหลายคน แต่มาตรการนี้มีประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมและผู้บริโภคในระยะยาว ดังนี้
ช่วยลดอัตรา NPL หรือหนี้เสีย
มาตรการ LTV ช่วยควบคุมการปล่อยสินเชื่อให้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ ลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้เสียในระบบธนาคาร ซึ่งจะส่งผลดีต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในระยะยาว
ป้องกันการเกิดภาวะฟองสบู่แตก
การควบคุมการปล่อยสินเชื่อผ่าน มาตรการ LTV ช่วยป้องกันการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดที่อยู่อาศัย ทำให้ราคาบ้านมีการปรับตัวอย่างสมเหตุสมผล
มีประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการกู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ
การมี มาตรการ LTV ช่วยให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีเสถียรภาพมากขึ้น ราคาบ้านไม่ถูกปั่นจากนักเก็งกำไร ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริงสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ในราคาที่เหมาะสม
สรุป
มาตรการ LTV เป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้มีความเหมาะสม ช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์และระบบการเงินของประเทศ แม้จะดูเข้มงวดในระยะสั้น แต่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและเศรษฐกิจโดยรวมในระยะยาว หากใครกำลังวางแผนยื่นกู้ซื้อบ้านไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังแรก หรือบ้านหลังที่ 2 ก็อย่ามองข้ามเงื่อนไขนี้ไป เพื่อให้เราวางแผนการเงินได้อย่างรัดกุมและลงตัวมากยิ่งขึ้น
และสุดท้าย สำหรับใครที่กำลังมองหาสินเชื่อที่อยู่อาศัย จะบ้านหลังแรก บ้านหลังที่ 2 บ้านมือสอง หรือรีไฟแนนซ์บ้าน ทีทีบี พร้อมให้บริการด้วยสินเชื่อบ้านใหม่-บ้านมือสอง และสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษหลากหลายทางเลือก ทั้งแบบดอกเบี้ยคงที่และดอกเบี้ยลอยตัว รวมถึงค่างวดผ่อนแต่ละเดือน ผ่อนได้นานสุดถึง 35 ปี และเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นภายใต้ มาตรการ LTV ที่ให้วงเงินอนุมัติสูงสุด 100% สนใจสอบถามรายละเอียดหรือรับคำแนะนำเพิ่มเติม ได้ที่สาขา ttb ทั่วประเทศ หรือลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้านติดต่อกลับได้ที่ แอป ttb touch หรือเว็บไซต์ ทีทีบี เพื่อวางแผนการเงินและการขอสินเชื่อให้เหมาะสมกับคุณที่สุด
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว : สินเชื่อบ้านใหม่ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.939% - 5.949% ต่อปี • สินเชื่อบ้านมือสอง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 5.563% - 6.648% ต่อปี • สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.862% - 5.315% ต่อปี • อัตราดอกเบี้ย MRR ปัจจุบัน = 7.705%ต่อปี ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • เงื่อนไขการสมัคร และอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด