รายได้เท่านี้ ซื้อรถยนต์รุ่นไหนดี ?

ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ต้องระมัดระวังและรัดเข็มขัดเรื่องการใช้จ่ายให้มากขึ้น แต่ถ้าใครที่มีความจำเป็นต้องออกรถใหม่เพื่อไว้ใช้งาน ก็ต้องมีการวางแผนและศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ เพราะการซื้อรถยนต์ 1 คันนั้นถือเป็นค่าใช้จ่ายระยะยาว โดยหลัก ๆ ให้ดูความสามารถในการผ่อนของตัวเองว่าควรผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่ แบบไม่ตึงมือจนเกินไป เพราะอย่าลืมว่านอกจากค่างวดรถแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมาอีกมากมาย

วิธีคำนวณหาราคารถยนต์ที่เหมาะสมกับรายได้

อันดับแรกต้องคำนวณหาก่อนว่าตัวเรานั้นมีความสามารถผ่อนเดือนละเท่าไหร่ที่ไม่เป็นภาระมากจนเกินไป โดยเงินผ่อนต่อเดือนที่ดีไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ เพื่อให้มีเงินเหลือไปวางแผนการเงินในด้านอื่น ๆ ทั้งใช้ในชีวิตประจำวัน เก็บออมและลงทุน โดยวิธีคำนวณคือ

(รายได้ต่อเดือน x 40%) = ความสามารถผ่อนต่อเดือน

แต่ถ้ามีหนี้สินอื่น ๆ อยู่ก่อนหน้าแล้ว ต้องนำหนี้สินก้อนนั้นมานับรวมในความสามารถผ่อนต่อเดือนร่วมด้วย เช่น มีความสามารถผ่อน 15,000 บาทต่อเดือน แต่ผ่อนคอนโดอยู่แล้ว 5,000 บาทต่อเดือน เท่ากับว่าจะเหลือความสามารถผ่อนเพียง 10,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น และเมื่อเรารู้ความสามารถผ่อนในแต่ละเดือนของตัวเองแล้ว ก็จะสามารถคำนวณหาราคารถยนต์ที่เหมาะสมที่เราซื้อได้ โดยวิธีคำนวณคือ

(เงินผ่อนต่อเดือน x จำนวนเดือนที่ผ่อน) / ((1+ ดอกเบี้ย) x %ยอดกู้) = ราคารถยนต์ที่เหมาะสม

ตัวอย่าง นายทีมีเงินเดือน 30,000 บาทต่อเดือน ต้องการซื้อรถยนต์ 1 คัน โดยคิดว่าจะดาวน์รถยนต์ 20% ระยะเวลาผ่อนชำระ 60 เดือน และดอกเบี้ยประมาณ 3.5% ต่อปี จะคำนวณดังนี้

1. คำนวณเงินผ่อนต่อเดือน คือ 30,000 บาท x 40% เท่ากับ 12,000 บาทต่อเดือน
2. คำนวณราคารถยนต์ที่เหมาะสม คือ (12,000 บาท x 60 เดือน) / ((1+ 3.5%) x 80%) เท่ากับ 869,565 บาท

ดังนั้น ราคารถยนต์ที่เหมาะสมกับเงินเดือน 30,000 บาทของนายที จะอยู่ประมาณไม่เกิน 869,565 บาท ซึ่งรถยนต์ที่ราคาใกล้เคียง ได้แก่ Honda City e:HEV, Toyota Yaris Cross, รถไฟฟ้า BYD ATTO 3, ORA Good Cat หรือ MG4 แต่ถ้าใครที่ต้องการประหยัดเงินมากกว่านั้นก็สามารถซื้อรถยนต์ที่ราคาต่ำกว่านี้ได้ อย่างเช่นรถ ECO CAR หรือ B Segment โดยเน้นผ่อนระยะสั้น เพื่อประหยัดดอกเบี้ยและช่วยให้ผ่อนรถหมดเร็วขึ้นก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับการวางแผนของแต่ละคน (อ้างอิงราคา ณ วันที่ 12 ธ.ค. 67)

ตัวอย่างรถยนต์ที่เหมาะสมกับรายได้

จากตัวอย่างไม่ว่าจะเงินเดือนเท่าไหร่ ก็ควรผ่อนรถยนต์และหนี้สินอื่น ๆ รวมกันไม่เกิน 40% ของรายได้ เพื่อไม่ให้การเงินตึงจนเป็นภาระมากเกินไป และจากตัวอย่างเป็นเพียงการแนะนำและคำนวณโดยคร่าว ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วการเลือกซื้อรถยนต์สักคันต้องใช้เวลาและความรู้ในการตัดสินใจ ดังนั้นตัวผู้ใช้งานควรศึกษารายละเอียดของทั้งตัวรถยนต์และเตรียมความพร้อมอย่างการวางแผนค่าใช้ต่าง ๆ ที่อาจจะตามมาหลังจากซื้อรถยนต์ร่วมด้วย

นอกจากนั้นแล้ว การซื้อรถใหม่เพื่อไว้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นรถมือใหม่ป้ายแดงหรือรถมือสองก็ควรมีประกันรถยนต์ติดรถไว้ และหากใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์เพื่อให้การขับขี่รถยนต์บนท้องถนนปลอดภัย มั่นใจได้ว่าหากมีอุบัติเหตุจะได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที สามารถซื้อประกันรถยนต์ผ่านแอป ttb touch มีให้เลือกซื้อได้ง่ายและสะดวก ทั้งยังแบ่งจ่ายได้ด้วย เลือกได้ว่าจะผ่อนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือ แบ่งชำระโดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิตกับ ttb broker (Cash Installment) ดอกเบี้ย 0% สูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ ttb broker กำหนด) จ่ายงวดแรกคุ้มครองทันที ขับรถได้อย่างสบายใจ ให้คุณเก็บเงินก้อนที่มีไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นก่อนได้เลย ถ้ามีแอป ttb touch แล้วคลิกซื้อผ่านมือถือได้เลย คลิกที่นี่ หรือดาวน์โหลดแอป ttb touch คลิกที่นี่

• บัตรเครดิต : ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 7% - 16% ต่อปี

ที่มา :

• https://www.9carthai.com/
• https://www.ttbbank.com/th/personal/investment/mutual-funds/mf-articles/detail/investment-dca-for-car