ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี โครงการแห่งการ “ให้” ที่ยั่งยืน มุ่งจุดประกายเยาวชนและชุมชน เพื่อเสริมสร้างสิ่งดี ๆ คืนสู่สังคมไทย ผ่านกิจกรรมเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามปรัชญา “Make REAL Change” เดินหน้าสานต่อนิทรรศการผลงานศิลปะและการแสดงประจำปี “fai-fah Art Fest 2023 เด็กธรรมดาคือสิ่งที่สวยงาม” เปิดพื้นที่โชว์เคสผลงานและไอเดียสร้างสรรค์ของเด็กไฟ-ฟ้า ที่ได้รับการจุดประกายและพัฒนาศักยภาพจากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า เพื่อนำเสนอให้สังคมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็ก ๆ ซึ่งในปีนี้เนรมิตพื้นที่ ทีทีบี แบงก์กิ้ง ฮอลล์ เป็นเกาะมหัศจรรย์จากจินตนาการของเด็กไฟ-ฟ้า พร้อมกิจกรรมออกแบบสร้างสรรค์แสดงผลงานสู่ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากเด็ก ๆ และชุมชน
นางสาวมาริสา จงคงคาวุฒิ หัวหน้าบริหารกิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า งาน fai-fah Art Fest 2023 เป็นเหมือนกิจกรรมสอบปลายภาคของศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า ซึ่งเป็นเวทีการแสดงผลงานของเด็กไฟ-ฟ้าทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ ประชาอุทิศ, ถ.จันทน์, บางกอกน้อย, สมุทรปราการ และนนทบุรี ที่ได้ร่วมกันคิดและสร้างสรรค์โปรเจกต์จากสิ่งที่ได้รับการจุดประกายจากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า ผ่านแนวคิด “เด็กธรรมดาคือสิ่งที่สวยงาม” และนำเสนอในรูปแบบนิทรรศการและการแสดงต่าง ๆ เพื่อให้บุคคลทั่วไปได้เห็นถึงพลังและความมุ่งมั่นของเด็ก ๆ ที่ตั้งใจถ่ายทอดความรู้ความสามารถสู่ไอเดียต่อยอดในด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเด็ก ๆ ได้ฝึกทักษะในการใช้ชีวิต กล้าทำสิ่งใหม่ ๆ รู้จักคิดวางแผน และทำงานเป็นกลุ่ม พร้อมนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปต่อยอด มีรายได้ มีอาชีพ สามารถเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันชุมชนไปในทิศทางที่ดีขึ้น”
“ภายในงาน มีการมอบเกียรติบัตรให้แก่เยาวชนที่ผ่านการเรียนรู้กิจกรรมสร้างสรรค์เชิงศิลปะและทักษะอาชีพแขนงต่าง ๆ ที่สำเร็จหลักสูตรจากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า และการมอบเกียรติบัตรแสดงความขอบคุณครูอาสาสมัคร ตลอดจนผู้สนับสนุนโครงการไฟ-ฟ้า นอกจากนี้ มีบูธกิจกรรมอาสาทำ Flash Card บัตรคำศัพท์เสริมการเรียนรู้เพื่อส่งต่อสื่อการเรียนรู้ให้กับเยาวชนกว่า 5,000 คนผ่านโรงเรียนขยายโอกาสทั่วประเทศ และการออกร้านขายผลิตภัณฑ์จากชุมชนและมูลนิธิที่เข้าร่วมกับทีมอาสาสมัครทีทีบี และจำหน่ายสินค้าจากการออกแบบของเด็กไฟ-ฟ้า ได้แก่ กระเป๋าผ้า เสื้อยืด และอาหาร รวมถึงงานแสดงนิทรรศการภาพวาดผลงานของเด็ก ๆ ไฟ-ฟ้า เพื่อให้พนักงานทีทีบี และลูกค้าที่มาใช้บริการได้รับชมผลงาน พร้อมร่วมสนับสนุนผลงานอีกด้วย โดยภาพวาดบางส่วนจะนำไปจัดนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA Bangkok) เพื่อให้ผู้สนใจด้านศิลปะได้รับชมผลงานของเด็ก ๆ ไฟ-ฟ้า ในช่วงวันเด็ก เดือนมกราคม ในปีหน้าอีกด้วย” นางสาวมาริสากล่าว
จุดประกายสร้างอาชีพ เปลี่ยนเด็กไฟ-ฟ้าให้ชีวิตดีขึ้น
โดยเสียงสะท้อนจากพี่ไฟ-ฟ้า “น้องปืน” นายศรัณย์กรณ์ ทิศานุรักษ์ ซึ่งจบคลาสเรียนเต้นจากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าที่ได้นำทักษะไปต่อยอดสร้างรายได้จากการเป็นครูสอนเต้น บอกว่า รักการเต้นมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.5 โดยเริ่มเรียนรู้จาก YouTube ยึดพื้นที่สวนสาธารณะเป็นเวทีฝึกฝน จนมีรุ่นพี่มาชักชวนให้เข้ามาเป็นเด็กไฟ-ฟ้า ทำให้ได้รับการพัฒนาทักษะและมีพื้นฐานการเต้นที่ถูกต้องจากครูผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการไปต่อบนเส้นทางสายอาชีพนักเต้น โดยหลังจากเรียนจบพยายามค้นหาความชอบและสไตล์ของตัวเอง พร้อมทั้งต่อยอดในเชิงการให้ความรู้เรื่องการเต้น มีเป้าหมายเล็ก ๆ ต้องการเป็นครูสอนเต้น ช่วยพัฒนาศักยภาพให้เด็กที่มีความฝันได้ประสบความสำเร็จ เพราะรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ได้สอนน้อง ๆ และเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น ส่วนเป้าหมายสูงสุดอยากมีโอกาสเป็นครูสอนเต้นให้กับศิลปินที่มีชื่อเสียงสักคน หรือเป็นคนคิดท่าเป็นเต้นขึ้นมาเพื่อให้คนได้จดจำ
“ไฟ-ฟ้า เป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2 สิ่งที่ผมได้รับไม่ใช่แค่ทักษะการเต้น แต่รวมถึงทักษะชีวิต เพราะครูจะสอนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตด้วย เช่น ถ้าเราใช้ชีวิตแบบไม่มั่นใจ การเต้นก็จะสะท้อนออกมาแบบไม่มั่นใจ ซึ่งผมเป็นคนที่ไม่มั่นใจเลย เมื่อเข้ามาเรียนครูก็ผลักดันทำให้มีความมั่นใจกล้าแสดงออกมากขึ้น และศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้ายังสอนให้รู้จักการให้ ผ่านกิจกรรมที่ปลูกจิตสำนึกให้กับเด็ก ๆ ผมดีใจที่ได้กลับมาร่วมเวที fai-fah Art Fest 2023 เพราะเป็นกิจกรรมที่ติดตามความคืบหน้าและพัฒนาการของเด็กในแต่ละปีว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ ยังทำให้เด็กรู้จักการทำงานเป็นทีมที่เป็นพื้นฐานของการเข้าสังคมการทำงานในอนาคต และได้ฝึกเรื่องการสื่อสารด้วย ผมมองว่าเป็นกิจกรรมที่ควรมีทุกปี เพื่อเป็นเวทีให้น้อง ๆ พัฒนาศักยภาพ ซึ่งหลายคนพยายามหาเวทีในการนำเสนอผลงานของตัวเอง แต่ทำไม่ได้ ดังนั้น การได้มาลองเปิดตัวในพื้นที่ Comfort Zone ก่อน จะทำให้คุ้นชินและมีประสบการณ์ กล้าที่จะก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัย”
“fai-fah Art Fest” เวทีปล่อยของและพัฒนาศักยภาพ
ปิดท้ายที่ “น้องเบียร์” กฤตเมธ ทานะมัย พี่ไฟ-ฟ้า มีเป้าหมายทำงานด้านคอนเทนต์ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง บอกว่า ช่วงที่กำลังค้นหาความสนใจของตัวเอง เรียนอยู่ชั้น ม. 2 เพื่อนได้ชวนตั้งวงดนตรี และเข้ามาเป็นเด็กไฟ-ฟ้า เรียนในคลาสกีตาร์โปร่ง แต่ต่อมามักรับหน้าที่หลักเป็นนักร้องของวง จึงเปลี่ยนมาเรียนคลาสร้องเพลง ซึ่งยอมรับว่าช่วงแรกไม่ค่อยสนใจมาเรียน เพราะติดเพื่อนและสังคมในโรงเรียน แต่เมื่อเข้ามาเรียนที่ไฟ-ฟ้าอย่างจริงจัง พบว่ามีสิ่งดี ๆ มากมาย นอกจากการเรียนรู้ทักษะการร้องเพลงแล้ว ยังทำให้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ได้เรียนรู้วิธีการคิด มุมมองใหม่ ๆ ไอเดียในการสร้างสรรค์ผลงาน และการทำงานร่วมกับเพื่อน ๆ รวมทั้งทำให้กล้าแสดงออกอย่างมั่นใจ ที่สำคัญยังสอนเรื่องการให้อย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม
“ทุกวันนี้ยังคุยกับเพื่อนว่า นึกภาพไม่ออกเลยถ้าไม่มาเป็นเด็กไฟ-ฟ้า ชีวิตผมจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ผูกพันเหมือนเป็นบ้านอีกหลัง เวลาเหนื่อยอยากพักก็มาที่นี่ และดีใจมากที่ได้มาร่วมกิจกรรม fai-fah Art Fest 2023 ซึ่งเป็นเวทีสร้างประสบการณ์ให้กับผมและเพื่อน รวมถึงน้อง ๆ รุ่นใหม่ได้มีโอกาสสัมผัสกับเวทีจริง ได้เรียนรู้และเก็บสิ่งที่ได้ทำเอาไปพัฒนาทักษะของตัวเอง ผมมองว่าเป็นเรื่องดีที่ได้มาโชว์ฝีมือให้คนได้ดู แม้กิจกรรมจะคล้าย ๆ กันทุกปี แต่นั่นยิ่งทำให้เรามองเห็นความแตกต่าง สมมติว่าผมมีโอกาสมาร้องเพลง 3 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกอาจจะประหม่าทำได้ไม่ดี เมื่อมาโชว์ในครั้งที่ 2-3 ผมต้องทำให้ดีขึ้น ถ้าพี่ ๆ เห็นเราตลอดก็จะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น ผมว่าทุกงานทุกปีเป็นพื้นที่ให้เราได้พัฒนาและเก็บประสบการณ์ เราเริ่มรู้จักวิธีการกำจัดความตื่นเต้น รู้วิธีทำให้คุ้นชินกับเวที ดังนั้น นี่คือพื้นที่สำหรับการพัฒนาของเด็ก ๆ การมีเวทีแบบนี้ช่วยได้เยอะ เราได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ และสามารถนำไปพัฒนาต่อได้” น้องเบียร์ กล่าวทิ้งท้าย
ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี มุ่งมั่นและตั้งใจเดินหน้าจุดประกายเยาวชนและชุมชน เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ติดตามกิจกรรมดี ๆ ต่อได้ที่ https://www.ttbfoundation.org