ทลายกับดัก “หุ้นปันผล” พร้อมโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย “หุ้นปันผล” เป็นอย่างไร? - และเป็นไปได้หรือไม่?
มาหาคำตอบไปกับกองทุน Eastspring Global Dividend Equity Fund (ES-GDIV)
ปี 2565 ถือเป็นอีกช่วงเวลานึงที่ยากลำบากสำหรับการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในตลาดหุ้น จากปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อที่สูง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ไปจนถึงความกังวลเศรษฐกิจถดถอย ที่ยังเป็นประเด็นจนถึงปัจจุบัน หลายบริษัทที่รู้จักกันดีและเคยสร้างกำไรให้แก่นักลงทุนอย่างมาก กลับมีผลตอบแทน 1 ปี ที่ผ่านมาติดลบ ไม่ว่าจะหุ้น Tesla (-65.5%), Meta (-65.1%), Netflix (-51.8%), Nvidia (-50.6%)
แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีหุ้นกลุ่มนึงที่ได้รับผลกระทบน้อยแม้ในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ กลุ่มนั้นคือ “หุ้นปันผล” ซึ่งหลายคนมองว่าหมดเสน่ห์และไม่น่าสนใจ เพราะนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่อาจมีประสบการณ์ลงทุนในหุ้นที่เน้นแต่จ่ายปันผลสูงแต่กลับมีราคาหุ้นไม่ขยับไปไหน หรือกลับซึมลงต่อเนื่อง และทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนรวมของพอร์ตการลงทุนต่ำกว่าดัชนีตลาด จนคำว่า “หุ้นปันผล” เป็นสิ่งที่นักลงทุนขยาดเมื่อได้ยิน อย่างไรก็ดี ปี 2565 ดัชนีหุ้นปันผลทั่วโลก หรือ MSCI World High Dividend Yield Net Total Return กลับให้ผลตอบแทนรวมชนะดัชนีตลาด ที่ -4.7% (MSCI ACWI Net Total Return USD -18%) (ที่มา : Bloomberg, 30 ธ.ค. 2564 – 30 ธ.ค. 2565)
สรุปแล้วในระยะยาวการลงทุนในหุ้นปันผลยังมีความน่าสนใจหรือไม่ และเราจะสามารถเลือกลงทุนในหุ้นปันผลที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนของเราได้ผลตอบแทนรวมที่ดีไม่แพ้ดัชนีตลาดได้อย่างไร?
ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้น
1. กรอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯเริ่มจำกัด : อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเกือบทั่วโลก (ยกเว้นญี่ปุ่น) มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อเนื่องโดยเฉพาะในแง่ YoY จากฐานการคำนวณที่สูงขึ้นส่งผลให้โอกาสการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯลดลง
ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI (%)
ที่มา: ttb Investment Strategist Jan 2023, Bloomberg, EIA, Data as at December 2022
2.ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ : ปัจจุบัน Valuation (Forward P/E) อยู่ในระดับที่น่าสนใจและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต
Global forward price-to-earnings ratios
ที่มา: J.P. Morgan Asset management - guide to the market. Data as at 31 December 2022
ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในหุ้นปันผล
1. ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย : หุ้นปันผลให้ความสำคัญกับการคงระดับการจ่ายเงินปันผล แม้ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย (การปรับลดของเงินปันผลส่งผลกระทบทางอ้อมต่อภาพลักษณ์ และมุมมองทางการเงินของบริษัท)
MSCI World Earnings and Dividends Drawdowns
ที่มา: Bloomberg, J.P. Morgan Asset management. Data as at 30 September 2022
2. หุ้นปันผลสร้างผลตอบแทนดีแม้ในช่วงภาวะเงินเฟ้อสูง : จากการศึกษาของ JP Morgan Asset Management ย้อนหลัง 23 ปี (4Q2542 ถึง 1Q2565) หุ้นจ่ายปันผลสูงในตลาดพัฒนาแล้ว (Developed market) สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงเงินเฟ้อมีระดับสูง (ทั้งช่วงที่เป็นทิศทางแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อหรือปรับตัวลง)
3. ผลตอบแทนเงินปันผลเพิ่มเสถียรภาพให้ผลตอบแทนรวมพอร์ตการลงทุน : ผลตอบแทนรวมจากตลาด S&P 500 ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) คิดเป็นอัตราส่วนที่สำคัญของผลตอบแทนต่อปีของดัชนี นอกจากนี้ผลตอบแทนการลงทุนในเงินปันผลไม่ติดลบ (ขณะที่ผลตอบแทนในส่วนต่างราคา หรือ Capital Gain สามารถติดลบได้) พอร์ตที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลจะมีผลตอบแทนรวมที่ผันผวนน้อยกว่า
S&P 500 returns: Capital appreciation and dividends
ที่มา: Ibbotson, Refinitiv Datastream, Standard & Poor’s, J.P. Morgan Asset Management. Past performance is not a reliable indicator of current and future results. Data as of 17 October 2022.
เพื่อตอบโจทย์โอกาสการลงทุนในหุ้นปันผล วันนี้ทีทีบีขอแนะนำกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity Fund (ES-GDIV) กองทุนคุณภาพที่ใช้กลุยทธ์การเฟ้นหาหุ้นชั้นเลิศ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์นักลงทุนที่มุ่งหวังโอกาสการได้รับเงินปันผลพร้อมการเติบโตไปกับตลาดหุ้น โดยกองทุน ES-GDIV มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว คือ กองทุน JPMorgan Investment Funds – Global Dividend Fund (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class C (acc) USD ที่จดทะเบียนซื้อขายในประเทศลักเซมเบิร์ก (Luxembourg) ดำเนินงานตามระเบียบของ UCITS ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน มีนโยบายพิจารณาจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง
กระบวนการลงทุนของกองทุนหลัก (JPMorgan Investment Funds – Global Dividend Fund)
- เน้นสร้างพอร์ตที่มีการเติบโตเงินปันผลในระยะยาวสูงกว่าดัชนีชี้วัด MSCI All Country World Index
- ใช้กลยุทธ์คัดสรรหุ้นด้วยปัจจัยคุณภาพ และ Dividend Framework ประมาณ 40-90 หลักทรัพย์ ให้ความสำคัญกับบริษัทที่มีการเติบโตระยะยาวและโอกาสการจ่ายเงินปันผล เพื่อผสานการสร้างผลตอบแทนปัจจุบันและการเติบโตในอนาคต เลี่ยงหุ้นกลุ่ม value trap (บริษัทมีอัตราการจ่ายปันผลสูงแต่ไม่มีการเติบโตหรือ high dividend payout bias)
สร้างสมดุลให้พอร์ตโฟลิโอด้วย “RELATIVE DIVIDEND YIELD”
กองทุนมีกรอบการคัดเลือกหุ้นปันผล (Dividend Framework) เพื่อผสานการสร้างผลตอบแทนปัจจุบันและการเติบโตในอนาคต โดยแบ่งกลุ่มหุ้นเป็น 3 ประเภท ตามลักษณะการจ่ายปันผล
สัดส่วนการลงทุนรายประเทศ ณ ธ.ค. 2565
| REGIONS | สัดส่วน (%) |
|---|---|
| United States | 58.4% |
| Europe & Middle East ex UK | 17.6% |
| United Kingdom | 5.7% |
| Pacific ex-Japan | 5.5% |
| Japan | 5.4% |
| Emerging Markets | 3.8% |
| Canada | 2.4% |
| Cash | 1.2% |
สัดส่วนการลงทุนรายกลุ่มอุตสาหกรรม ณ ธ.ค. 2565
| SECTORS | สัดส่วน (%) |
|---|---|
| Banks | 10.3% |
| Pharm/Medtech | 10.2% |
| Technology – Semi & Hardware | 7.9% |
| Retail | 7.8% |
| Industrial Cyclicals | 6.9% |
| Financial Services | 6.4% |
| Energy | 5.9% |
| Technology – Software | 5.7% |
| Property | 5.0% |
| Automobiles & Auto Parts | 4.8% |
| Others | 27.9% |
| Cash | 1.2% |
สัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ 10 อันดับแรก ณ ธ.ค. 2565
ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน
- Microsoft : ผู้ให้บริการ Software สำหรับองค์กรและการให้บริการ Cloud ที่กำลังเติบโต บริษัทมีการเติบโตสูงทั้งรายได้และกำไร ~15-20% ต่อปี มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง (Microsoft Earning 4Q2565, EITH, ธ.ค. 2565)
- Bristol-Myers Squibb : บริษัทวิจัยและพัฒนายาชั้นนำของสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญในด้านยารักษาโรคมะเร็งและโรคเรื้อรังต่างๆ (Top 10 ของโลกในแง่รายได้และจำนวนสิทธิบัตรปี 2564) บริษัทมีรายได้เติบโตสม่ำเสมอและมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ (Bristol-Myers Squibb investor ต.ค. 2565, EITH, ธ.ค. 2565)
- Bank of America : หนึ่งในสถาบันการเงินชั้นนำในสหรัฐฯ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ด้วยขนาดสินทรัพย์กว่า 3.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ให้บริการครอบคลุม สินเชื่อ บัตรเครดิต Mobile Banking, Wealth Banking และ Investment โดยงบการเงินแข็งแกร่ง และรายได้ที่สม่ำเสมอ (Bank of American ก.ย. 2565, EITH, ธ.ค. 2565)
ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุนหลัก (31 ธ.ค. 2565)
กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลังโดดเด่น สามารถเอาชนะดัชนีชี้วัด (MSCI ACWI) ที่ +2.5% ต่อปีเฉลี่ย นับแต่จัดตั้ง (8 พ.ย. 2555 (Acc USD Class)) และกองทุนได้รับจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว (31 ธ.ค. 2565)
| SECTORS | 1 เดือน | 3 เดือน | 1 ปี | 3 ปี | 5 ปี | ตั้งแต่ จัดตั้ง |
|---|---|---|---|---|---|---|
| JPM Global Dividend C (acc) - USD | -1.34% | 12.93% | -8.32% | 9.00% | 8.50% | 10.96% |
| Benchmark | -3.94% | 9.76% | -18.36% | 4.00% | 5.23% | 8.46% |
Benchmark: MSCI All Country World Index (Total Return Net USD), กองทุนหลัก Class Acc USD จัดตั้งวันที่ 8 พ.ย. 2555, อัตราผลตอบแทนต่อปี (Annualized) สำหรับช่วงเวลาเวลามากกว่า 1 ปี
กองทุนหลักมีผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลัง ที่ 9% ต่อปี เมื่อเทียบกับดัชนีหุ้นโลก หรือ MSCI ACWI Index (Net Total Return USD) ที่ 4% ต่อปี (ที่มา : Bloomberg , 31 ธ.ค. 2562 – 30 ธ.ค. 2565)
Table 6 เปรียบเทียบผลการดำเนินงาน (Bloomberg, 31 ธ.ค. 2562 – 30 ธ.ค. 2565)
ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนคุณภาพระดับโลกที่ใช้กลยุทธ์การเฟ้นหาหุ้นชั้นเลิศตอบโจทย์นักลงทุนที่มุ่งหวังโอกาสการได้รับเงินปันผลพร้อมการเติบโตไปกับตลาดหุ้น สามารถลงทุนไปกับกองทุนรวมที่น่าสนใจอย่างกองทุนเปิด Eastspring Global Dividend Equity Fund (ES-GDIV) ที่ ttb ได้ตั้งแต่ช่วง IPO ในวันที่ 23-27 มกราคม 2566 และอีกครั้งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป
โปรโมชันพิเศษ ช้อปดีมีคืน 2566
เมื่อลงทุนในกองทุนเปิด Eastspring Global Dividend Equity Fund (ES-GDIV) ผ่านทีทีบี
ค่าธรรมเนียมการซื้อกองทุนรวม (Front-end Fee) สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท
โดยผู้ลงทุนต้องเก็บใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีที่ได้รับไว้เป็นหลักฐานเพื่อยื่นลดหย่อนภาษีประจำปี 2566
(ตามเงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีของโครงการช้อปดีมีคืน 2566)
ระยะเวลาโปรโมชัน : วันที่ 23 ม.ค. – 15 ก.พ. 2566
หมายเหตุ : เงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะของกองทุน เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน /ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม ก่อนตัดสินใจลงทุน
หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขา หรือสามารถติดต่อได้ที่ ttb investment line โทร 1428 กด #4 (จันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00-17.30 น. ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)
คำเตือน : เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผลการดำเนินงานในอดีตและผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การลงทุนในกองทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงของการลงทุนผู้ลงทุนอาจจะได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้และอาจไม่ได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนดหรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้ กองทุนหลักมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมและกระจุกตัวในประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มเทคโนโลยีจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินจำนวนมาก กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากการที่กองทุนหลัก (master fund) มีการลงทุนกระจุกตัวในตราสารของผู้ออกตราสารรายใดรายหนึ่งมากกว่า 10% ของ NAV และมีโอกาสที่จะมีการลงทุนกระจุกตัวในตราสารของผู้ออกเมื่อรวมกันใน 5 อันดับแรกสูงกว่า 50% ของ NAV ก่อนการตัดสินใจลงทุนควรศึกษาหนังสือชี้ชวนอย่างรอบคอบ ทำความเข้าใจลักษณะของกองทุน เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เอกสารฉบับนี้ต้องใช้ประกอบกับ Fund FactSheet ขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารทีเอ็มบีธนชาตทุกสาขา บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนข้อมูลและการแสดงความเห็นต่างๆที่ปรากฎอยู่ในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำบนพื้นฐานจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และให้ความเห็นตามหลักวิชาการเท่านั้นโดยไม่ได้มุ่งหมายให้ถือเป็นการชักชวนหรือชี้ให้ซื้อ และ/หรือขายผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนประเภทต่างๆ ตามที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ทั้งนี้ทีมงานไม่อาจยืนยันและรับรองความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นได้ และไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ทีมงานไม่ขอรับความรับผิดชอบต่อความเสียหายในรายได้หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูล ข้อความ ความเห็น และ/หรือบทสรุปต่างๆ ที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดๆ